ทำเรซูเม่ออนไลน์

ทำเรซูเม่สมัครงาน ที่แสดงถึงความเก่งกาจของคุณออกมาได้ดีที่สุด พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการสมัครงาน ใช้งานได้จริง สมัครแล้วได้งานเร็ว

ทำเรซูเม่ของฉัน

ทำเรซูเม่
ข้อมูล 6 อย่าง ที่จะต้องใส่ลงในเรซูเม่สมัครงาน

ข้อมูล 6 อย่าง ที่จะต้องใส่ลงในเรซูเม่สมัครงาน

By: | 11 ธันวาคม | 65,711 views | 1,282 shares


เมื่อคุณกำลังจะเขียนเรซูเม่เพื่อสมัครงาน แต่คุณไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่นักว่าจะต้องใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้าง คุณอาจจะประหม่าเมื่อไม่รู้ว่าจะใส่อะไรลงไปดี หรือไม่ใส่อะไรลงไปดี เพื่อให้ เรซูเม่หนึ่งหน้า ของคุณสมบูรณ์แบบ และพร้อมใช้ส่งให้บริษัทเพื่อสมัครงานในฝันของคุณ

ในวันนี้ พวกเราชาว Resume.in.th มาสรุปรายละเอียดชัดเจนเป็นข้อ ๆ ให้แล้ว ว่าเราควรจะใส่ข้อมูลอะไรลงในเรซูเม่สมัครงานบ้าง เพื่อให้คุณสามารถสร้างเรซูเม่ดี ๆ ของตัวเองได้

1. ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อ และข้อมูลส่วนตัว ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเรซูเม่ของคุณ นั่นคือคุณจะต้องแนะนำตัวเองให้กับบริษัทรู้ว่า คุณชื่ออะไร อยู่ที่ไหน และสามารถติดต่อคุณได้ทางไหนบ้าง ข้อมูลติดต่อ และข้อมูลส่วนตัวของคุณควรจะมีความยาวไม่เกิน 3-4 บรรทัด

  • ชื่อ นามสกุล
  • เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และอีเมล์
  • ที่อยู่อย่างละเอียด

เน้นว่าเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และอีเมล์ของคุณมีความสำคัญมาก เมื่อบริษัทได้รับเรซูเม่ของคุณ และสนใจอยากเรียกคุณเข้าไปสัมภาษณ์ เขาจะติดต่อคุณได้ก็ต่อเมื่อคุณให้เบอร์โทรที่ถูกต้องกับเขาไป

ที่อยู่สำคัญรองลงมาเป็นอันดับสอง เพราะบริษัทจะดูคร่าว ๆ ว่าคุณอยู่แถวไหน เขตไหน จังหวัดไหน และสามารถเดินทางไปทำงานที่บริษัทเขาได้อย่างสะดวกหรือเปล่า

2. จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective)

จุดมุ่งหมายในการทำงาน ก็คือเป้าหมายในการทำงานของคุณ เป็นข้อความที่สรุปใจความของเรซูเม่คุณทั้งฉบับ ลงมาเป็นประโยคไม่กี่ประโยค ยาวเพียง 1-2 บรรทัดเท่านั้น ความยาวนี้ส่วนมากแล้วจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทำงานของคุณเป็นหลัก ถ้าคุณทำงานมาแล้ว 10 ปี ก็จะเขียนจุดมุ่งหมายแตกต่างจากนักศึกษาจบใหม่อย่างแน่นอน

ตัวอย่าง

นักศึกษาจบใหม่

Recent graduate with 1-year experience in hospitality, always aiming to do my best to leave a great impression with guests. BA in Hospitality and sales experience.

ผู้ที่มีประสบการณ์ 7 ปี

Concierge with 7 years of experience in boutique hotels. Easy-going and detail oriented, I always do my best to leave a great impression with guests and help ensure that they have a unique experience. MA in Hospitality and prior sales experience.

3. ประสบการณ์ทำงาน

ประสบการณ์ทำงาน ถือเป็นส่วนหลักของเรซูเม่ของคุณเลยก็ว่าได้ คุณจะถูกเรียกสัมภาษณ์งาน หรือไม่ถูกเรียกสัมภาษณ์งาน ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทำงานนี่แหล่ะ

ประสบการณ์ทำงาน มีความสำคัญมาก ให้แบ่งพื้นที่เรซูเม่สัก 60% เพื่อใส่ประสบการณ์ทำงาน

ส่วนของประสบการณ์ทำงานนี้จะต้องเป็นส่วนที่มีความยาวมากที่สุดในเรซูเม่ของคุณ แต่ก็ไม่ต้องให้มันยาวเกินไปหรอกนะ ให้แบ่งออกเป็นงาน ๆ ตามประสบการณ์ของคุณ

เมื่อแบ่งออกเป็นงานๆแล้ว ก็ให้ใส่รายละเอียดว่าคุณได้ทำอะไรในงานนั้น ๆ มาบ้าง สำหรับตำแหน่งที่คุณภูมิใจเป็นพิเศษก็สามารถใส่รายละเอียดเป็นบุลเล็ตประมาณ 6-10 บุลเล็ตได้เลย ส่วนงานอื่นๆ 3-6 บุลเล็ตก็เพียงพอแล้ว

สำหรับนักศึกษาจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ก็ให้ใส่ ประสบการณ์ฝึกงาน ของตัวเองลงไปแทน ใส่ลงไปด้วยว่าคุณได้ทำอะไรในตอนฝึกงานมาบ้าง สรุปเป็นหัวข้อ ๆ 3-6 บุลเล็ตก็เพียงพอแล้ว

4. การศึกษา

คุณจะต้องใส่ ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ของคุณลงในเรซูเม่ แต่ก็ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะมากนัก ยกเว้นแต่ว่าคุณกำลังสมัครงานในวงการศึกษา ข้อมูลการศึกษาที่คุณจะต้องใส่ลงไปได้แก่

  • ชื่อสถานศึกษา + ปีที่จบการศึกษา
  • ชื่อวุฒิ (ป.ตรี, ปวส, ปวช, ฯลฯ)
  • ชื่อคณะ วิชาเอก วิชาโท

และยังรวมถึงคอร์สเรียนระยะสั้น หรือใบ Certificate ที่คุณได้มาด้วย

5. สกิล และความสามารถพิเศษต่างๆ

สกิลทางด้านภาษา เช่นคุณสามารถสื่อสารภาษาอะไรได้บ้าง ถ้าคุณพูดได้ถึงสามภาษา ก็ใส่มันลงไปให้หมด หรือถ้าคุณพูดได้สองภาษา ไทยและอังกฤษ ก็ให้ใส่มันลงไปด้วย คุณจะภาษีดีกว่าคนที่พูดได้เพียงภาษาเดียว ส่วนคนที่ไม่ใส่ข้อมูลอะไรเลยจะเสียเปรียบที่สุด ถ้าพูดภาษาอะไรได้ก็ใส่มันลงไปนะครับ

สกิลทางด้านอื่นๆ และความสามารถพิเศษต่างๆรวมไปถึง

  • สามารถขับรถโฟล์คลิฟท์ได้
  • มีใบอนุญาตขับรถแข่ง
  • มีใบอนุญาตวิศวกร
  • มีใบอนุญาตสถาปนิก
  • มีใบอนุญาตเภสัชกร

สกิลอื่น ๆ นี้ขอให้เป็นสกิลที่ตรงกับตำแหน่งงานที่คุณกำลังสมัครอยู่เท่านั้น ถ้าเป็นสกิลที่ไม่ตรง ใส่ไปก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าใส่เยอะเกินก็จะถูกมองว่าเป็นเรซูเม่ที่ไม่มีคุณภาพได้

6. รางวัลต่างๆที่คุณเคยได้รับมา

รางวัลต่าง ๆ ที่คุณเคยได้รับมา มีหน้าที่ทำให้เรซูเม่ของคุณดูดีขึ้นโดยรวมเท่านั้น ไม่ได้มีน้ำหนักมากจนทำให้คุณสามารถได้งานได้ทันที ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นรางวัลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตำแหน่งงานที่คุณกำลังสมัครอยู่

รางวัลที่ไม่มีประโยชน์: ชนะเล่นดนตรี ศิลปะ ร้อยกรอง

เหตุผล: รางวัลพวกนี้จะมีประโยชน์เฉพาะกับงานที่ต้องเล่นดนตรี ครีเอทีฟ และงานที่ต้องใช้ภาษาไทยหนัก ๆ เท่านั้น ถ้าคุณไม่ได้สมัครงานสายที่เกี่ยวข้อง ใส่ลงไปไม่มีประโยชน์อะไร

รางวัลที่มีประโยชน์: ชนะประกวดเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

เหตุผล: ถ้าคุณกำลังสมัครงานตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ นี่คือรางวัลที่ทำให้เรซูเม่ของคุณดูดีขึ้นสองเท่าตัวเลยล่ะ

รางวัลที่มีประโยชน์: นักขายดีเด่นของบริษัท

เหตุผล: เป็นรางวัลที่สูงที่สุดที่พนักงานขายจะได้รับแล้ว ไปสมัครงานที่ไหนก็มีแต่คนแย่งตัว

สรุป

นี่คือ 6 สิ่งที่คุณควรจะใส่ลงไปในเรซูเม่สมัครงานของคุณ ถ้าคุณกำลังเขียนเรซูเม่เอง แล้วใส่ข้อมูลไม่ครบทั้ง 6 สิ่งนี้ ก็ให้กลับไปแก้ไข และเพิ่มข้อมูลให้ครบ อย่าปล่อยเว้นไว้ว่างๆ เพราะคุณจะเสียโอกาสในตรงนี้ไป

สร้างเรซูเม่สมัครงาน
ประสิทธิภาพสูง

สร้างเรซูเม่สมัครงาน ที่แสดงถึงความเก่งกาจของคุณออกมาได้ดีที่สุด
พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการสมัครงาน ใช้งานได้จริง สมัครแล้วได้งานเร็ว

เริ่มใช้งานฟรี

แบ่งปันบทความดีๆให้เพื่อนฝูง


Tags: #เรซูเม่ #เรซูเม่สมัครงาน #เขียนเรซูเม่ #Resume

ขอบคุณ:

บทความดีๆ เกี่ยวกับเรซูเม่

ตัวอย่าง Career Objective นักวิเคราะห์ข้อมูล สายงานต่างๆ

ตัวอย่าง Career Objective นักวิเคราะห์ข้อมูล สายงานต่างๆ

ตัวอย่าง Career Objective ที่น่าสนใจสำหรับตำแหน่งงานวิเคราะห์ข้อมูล สายงานต่างๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษาจบใหม่หรือมีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว ก็สามารถนำไปปรับ
ตัวอย่างเรซูเม่ โปรแกรมเมอร์ พร้อมวิธีเขียนอย่างละเอียด

ตัวอย่างเรซูเม่ โปรแกรมเมอร์ พร้อมวิธีเขียนอย่างละเอียด

โปรแกรมเมอร์ เป็นสายงานที่จะต้องเขียนเรซูเม่ลงลึกไปในด้านสายงานโดยเฉพาะ จึงทำให้ เรซูเม่ของโปรแกรมเมอร์ เขียนยากโดยที่ไม่มีข้อมูลหรือเห็นตัวอย่างดีๆ มาก่อน
ตัวอย่าง Career Objective ของงานกฎหมาย สายงานต่างๆ

ตัวอย่าง Career Objective ของงานกฎหมาย สายงานต่างๆ

จบใหม่สายกฎหมายพร้อมแล้วหรือยังที่จะก้าวเข้าสู่โลกกว้างของการค้นหาความยุติธรรมและการปกครองตามหลักนิติธรรม? Career Objective ที่น่าสนใจสำหรับตำแหน่งงานกฎหมาย
วิธีใส่งานอดิเรกที่มีประโยชน์ลงในเรซูเม่ เพิ่มโอกาสการได้งาน

วิธีใส่งานอดิเรกที่มีประโยชน์ลงในเรซูเม่ เพิ่มโอกาสการได้งาน

ใส่งานอดิเรกลงในเรซูเม่ดีไหม? เป็นคำถามที่นักศึกษาจบใหม่ และผู้ไม่มีประสบการณ์ทำงานถามกันอยู่เสมอ ๆ มาดูเคล็ดลับการใส่งานอดิเรกที่มีประโยชน์ลงในเรซูเม่กัน
วิธีเขียนเรซูเม่ สมัครงาน ให้โดนใจได้งาน

วิธีเขียนเรซูเม่ สมัครงาน ให้โดนใจได้งาน

เทคนิคการเขียนเรซูเม่ ให้ได้เรซูเม่ออกมาดีมีคุณภาพพร้อมส่งสมัครงาน เทคนิคการเขียนเรซูเม่ที่ดีได้ง่าย ๆ อัพเดทเรซูเม่ก่อนสมัครงานใหม่ทุกครั้งด้วยวิธีนี้เลย
วิธีการใส่ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลติดต่อลงในเรซูเม่ ที่ถูกต้อง

วิธีการใส่ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลติดต่อลงในเรซูเม่ ที่ถูกต้อง

เทคนิคในการใส่ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลติดต่อ ลงในเรซูเม่อย่างถูกต้อง เพื่อให้เรซูเม่ของคุณสมบูรณ์แบบ มีข้อมูลติดต่อที่ถูกต้อง และข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญครบถ้วน
ตัวอย่าง Career Objective สายสุขภาพและความงาม

ตัวอย่าง Career Objective สายสุขภาพและความงาม

ตัวอย่าง Career Objective ที่น่าสนใจสำหรับตำแหน่งงานสุขภาพและความงาม สายงานต่างๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษาจบใหม่หรือมีประสบการณ์ทำงานแล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้
ตัวอย่างเรซูเม่สายไอที นักศึกษาจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์

ตัวอย่างเรซูเม่สายไอที นักศึกษาจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์

ตัวอย่างเรซูเม่นักศึกษาจบใหม่สายไอที ไม่มีประสบการณ์ เรซูเม่เปรียบเสมือนประตูสู่ความสำเร็จในการสมัครงานเพราะเป็นเอกสารแรกที่นายจ้างจะได้เห็น โดยเฉพาะสายไอที
เด็กจบใหม่ ใส่ประสบการณ์ฝึกงานลงในเรซูเม่อย่างไร ให้ได้เปรียบ

เด็กจบใหม่ ใส่ประสบการณ์ฝึกงานลงในเรซูเม่อย่างไร ให้ได้เปรียบ

ในกลุ่มเด็กจบใหม่ ประสบการณ์ฝึกงานที่ตรงสายกับตำแหน่งงานที่เราสมัคร มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก และสามารถสร้างความได้เปรียบให้คุณเหนือคู่แข่งได้เป็นอย่างดี
วิธีการใส่บุคคลอ้างอิง ลงในเรซูเม่

วิธีการใส่บุคคลอ้างอิง ลงในเรซูเม่

บุคคลอ้างอิง คือ บุคคลที่มีความรู้ความสามารถและสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครงานได้อย่างตรงไปตรงมาและเชื่อถือได้ บุคคลอ้างอิงที่เหมาะสมควรเป็นบุคคลที่รู้
วิธีการใส่ใบอนุญาต ลงในเรซูเม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

วิธีการใส่ใบอนุญาต ลงในเรซูเม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

การใส่ใบอนุญาตลงในเรซูเม่ แสดงให้เห็นถึงความรู้ ทักษะ หรือความสามารถเฉพาะด้านที่มี ทำให้เรซูเม่น่าสนใจและโดดเด่นมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการได้งาน เลื่อนตำแหน่ง
วิธีการใส่คอร์สเรียน และใบประกาศลงในเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการใส่คอร์สเรียน และใบประกาศลงในเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคดีๆ ระบุชื่อคอร์สเรียน หรือใบประกาศ ระบุชื่อสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่จัดหลักสูตร ระบุวันที่เริ่มเรียนและวันที่จบ ระบุคะแนนหรือเกรดเฉลี่ย (ถ้ามี)

เราได้รับความไว้วางใจจาก ผู้สมัครงานทั่วประเทศไทย

ตัวเลขเหล่านี้เป็นหลักฐานว่าทำไมถึงมีคนใช้งานเยอะ

800K

เรซูเม่ทั้งหมดที่สร้าง

30

ธีมเรซูเม่

215

สาขาอาชีพ

1.5K

จำนวนผู้ติดตาม